มาดูพฤติกรรมที่ไม่ควรทำในห้องน้ำ แล้วลองย้อนมองดูตัวเองว่าชอบทำแบบนี้ตอนอยู่ในห้องน้ำหรือไม่ ถ้าทำเป็นประจำรีบเลิกโดยด่วน ไม่อย่างนั้นเป็นอันตรายกับตัวเองแน่นอน
แม้จะดูแลรักษาความสะอาดในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี แต่หลายคนก็ยังเผลอทำพฤติกรรมเสี่ยง ๆ เหล่านี้ในห้องน้ำอยู่เป็นประจำ โดยที่ไม่รู้ว่ามันอันตรายต่อร่างกายของเรามาก-น้อยแค่ไหน กระปุกดอทคอมเลยขอถือโอกาสนี้มาบอกกล่าวให้ทุกคนได้รู้ว่า พฤติกรรมคุ้นเคยอะไรบ้างที่ไม่ควรทำขณะอยู่ในห้องน้ำ ถ้าไม่อยากให้ชีวิตของคุณและคนในครอบครัวต้องอยู่ร่วมกับเชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรียก็ไปดูกันค่ะ
1. ไม่ปิดฝาชักโครกตอนกดน้ำทิ้ง
แม้การปิดฝาชักโครกขณะกดน้ำทิ้งจะดูเป็นเรื่องเล็ก ๆ ที่หลายคนมองข้าม แต่จากการสำรวจกลับพบว่า ขณะที่ชักโครกกำลังปล่อยน้ำออกมาล้างโถนั้น จะมีละอองสิ่งสกปรกออกมาจากชักโครกด้วย ซึ่งกระจายได้ไกลถึง 60 ฟุต ทำให้มีเชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรียฟุ้งกระจายอยู่ทั่วในอากาศ และติดอยู่ตามจุดต่าง ๆ ในห้องน้ำ ดังนั้นก่อนจะกดชักโครกทุกครั้งควรปิดฝาชักโครกให้ดีซะก่อน เพื่อความปลอดภัยและอนามัยที่ดี
2. เก็บแปรงสีฟันผิดวิธี
การเก็บแปรงสีฟันก็เป็นเรื่องที่ควรใส่ใจ เพราะไม่อย่างนั้นความชื้นภายในห้องน้ำและเหล่าเชื้อโรคจากแปรงสีฟันของคนอื่นก็จะกระจายมาเกาะที่แปรงสีฟันของคุณ ฉะนั้นควรเก็บแปรงสีฟันโดยการนำหัวแปรงขึ้น ระวังอย่าให้แปรงสีฟันของเราไปสัมผัสกับแปรงสีฟันของคนอื่น ทำความสะอาดห้องน้ำให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก และอย่าลืมปิดฝาชักโครกกันด้วยนะคะ
3. วางเครื่องสำอางไว้ในห้องน้ำ
เลิกซะเถอะค่ะ สาว ๆ ที่ชอบวางเครื่องสำอางทิ้งไว้ในห้องน้ำ เพราะเหล่าเชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรียที่ฟุ้งกระจายอยู่ทั่วในห้องน้ำ จะเกาะติดอยู่กับเครื่องสำอางที่คุณสาว ๆ เอาไว้แต่งหน้า ฉะนั้นถ้าไม่อยากให้ใบหน้ามีสิวเพราะเชื้อโรคและแบคทีเรีย ทางที่ดีเก็บเครื่องสำอางไว้นอกห้องน้ำ หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ก็ปิดฝาและเก็บใส่กล่องที่มีฝาปิดมิดชิดจะดีกว่า
4. ไม่เคยเปลี่ยนใยบวบขัดตัว
แม้ใยบวบจะมีประโยชน์ช่วยทำความสะอาดและขัดคราบไคลออกจากร่างกายได้ดี แต่หากใช้ไปนาน ๆ และไม่เคยทำความสะอาดด้วยแล้วละก็ รับรองได้เลยว่าใยบวบก็กลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคอันดับหนึ่งแน่นอน เผลอ ๆ อาจจะมีเชื้อโรคติดไปกับฟองสบู่และน้ำที่เราใช้ทำความสะอาดร่างกายด้วยก็ได้นะคะ ถ้าไม่อยากสัมผัสกับเชื้อโรคซ้ำแล้วซ้ำเล่า แนะนำให้เปลี่ยนใยบวบอันใหม่ทุก 3-4 สัปดาห์ และทำความสะอาดทุกครั้งหลังใช้งานด้วยก็จะดี
5. แขวนผ้าเช็ดตัวซ้อนกัน
การแขวนผ้าเช็ดตัวซ้อนกันทำให้เกิดความอับชื้นบวกกับคราบน้ำสบู่ คราบไคลที่สะสมในผ้า เลยกลายเป็นอีกหนึ่งแหล่งก่อตัวของเชื้อโรค เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา ฉะนั้นหลังเช็ดตัวควรนำผ้าแขวนในไม้แขวนเสื้อแล้วนำไปผึ่งให้แห้ง โดยไม่แขวนผ้าเช็ดตัวกระจุกรวมกัน นอกจากนี้ควรซักหลังใช้งานมาแล้ว 3 ครั้ง ก็จะช่วยลดจำนวนแบคทีเรียและเชื้อโรคลงไปได้เยอะเลย
6. ไม่เปิดพัดลมระบายอากาศ
ห้องน้ำเป็นจุดสะสมความชื้นอันดับต้น ๆ ของบ้าน ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องระบายอากาศและความชื้นในห้องออกไปบ้าง เพื่อลดการก่อตัวของเชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรีย ทุกบ้านควรจะเปิดพัดลมดูดอากาศหรือเปิดหน้าต่างในห้องน้ำบ้างขณะใช้งานหรือหลังจากใช้งานเสร็จแล้ว โดยเปิดทิ้งไว้สัก 15-20 นาที ทุก ๆ วัน
7. ไม่ทำความสะอาดม่านอาบน้ำ
แม้จะเป็นสิ่งของที่ดูไม่สกปรก แต่รู้หรือไม่ว่ามันกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคมากมายอย่างที่คาดไม่ถึง เพราะกว่า 42% ของผู้ที่ใช้ม่านอาบน้ำ มักจะอ้างว่าไม่มีเวลาทำความสะอาด ซึ่งจริง ๆ แล้วแค่หยิบไปปั่นในเครื่องซักผ้า ไม่ต้องเปลืองแรงขัด ม่านอาบน้ำก็สะอาดได้ทันใจไร้ตัวอันตรายแล้ว
8. ใช้โทรศัพท์มือถือในห้องน้ำ
หากไม่หยิบโทรศัพท์เข้าไปในห้องน้ำด้วย หลายคนคงรู้สึกไม่คุ้นชินกับความว่างเปล่าในระหว่างทำธุระส่วนตัวใช่ไหมคะ แต่มันไม่ดีกับสุขภาพของเราเลย เพราะการหยิบโทรศัพท์เข้าไปนั่งเล่นในห้องน้ำ เสี่ยงต่อการสัมผัสเชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตราย ทั้งจากชักโครกและการชำระล้างต่าง ๆ จะไปสะสมอยู่ที่โทรศัพท์มือถือ ซึ่งเมื่อเราหยิบโทรศัพท์มือถือมาใช้งานเหล่าเชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรียก็จะอพยพเข้าสู่ร่างกาย ฉะนั้นจึงไม่ควรนำโทรศัพท์มือถือเข้าไปใช้งานในห้องน้ำโดยเด็ดขาด
รู้อย่างนี้แล้วยังจะมีใครทำพฤติกรรมเสี่ยง ๆ เหล่านี้บ้างไหมคะ เอาเป็นว่าหลีกเลี่ยงให้ได้มากที่สุด ด้วยวิธีการที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ เพื่อสุขภาพและสุขอนามัยที่ดีของตัวเองและทุกคนในครอบครัว
ที่มา : Kapook